หาแหล่งกู้เงินฉุกเฉิน หรือแอปเงินกู้ถูกกฎหมายอนุมัติง่ายรวมไปถึงแหล่งขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
บัตรเดบิตคือบัตรที่สถาบันการเงินได้ผูกไว้กับบัญชีธนาคาร ทำให้ง่ายต่อการหักเงินเวลาโอนเงินหรือชำระค่าบริการ ถ้าถามว่าบัตรดังกล่าวมีกี่แบบในช่วงปี 2567 มานี้ คงต้องบอกว่าบัตรเดบิตออนไลน์มีไม่ค่อยหลากหลายนัก เพราะจุดประสงค์หลักของบัตรเดบิตหรือการสมัครบัตรเดบิตก็คือการถอนเงินสดหรือชำระเงินสดนั่นเอง แต่อาจจะมีบัตรบางชนิดที่มาพร้อมกับสิทธิพิเศษ เป็นต้นว่ามีส่วนลดเมื่อชำระสินค้าผ่านทางออนไลน์ หรือผู้สมัครจะได้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสะสมหรือไม่ก็รับส่วนลดตั๋วโรงหนัง หากมองในมุมมองของภาคการเงิน อาจกล่าวได้ว่าบัตรเดบิตเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมยุคไร้เงินสดก็ได้ เพราะทุกวันนี้บางคนไม่อยากพกเงินสดติดตัวเนื่องจากมีอันตรายและไม่สะสวกต่อการพกพา ทำให้บัตรเดบิตตอบโจทย์มากกว่า ใครที่คิดจะทำบัตรดังกล่าวในปี 2024 อาจจะลองมองหาสถาบันการเงินที่มีสิทธิพิเศษบัตรตรงกับไลฟ์สไตล์ของท่าน เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ของบัตรอย่างคุ้มค่าที่สุด
เป็นความเข้าใจถูกบางส่วนที่ว่าบัตรเดบิตคือบัตร atm เพราะบัตร atm และบัตรเดบิตต่างเป็นบัตรที่มีไว้เพื่อถอนเงินและโอนเงินเป็นหลัก เพียงแต่บัตรเดบิตมักจะมาพร้อมกับประโยชน์และสิทธิพิเศษเฉพาะของบัตรนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่นบัตร เดบิต LET’S SCB Extra Plus ธนาคารไทยพาณิชย์ที่มอบประโยชน์ให้แก่ผู้สมัครบัตรเดบิต อาทิ ได้รับวงเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาลจากกรณีเกิดอุบัติเหตุครั้งละไม่เกิน 5000 บาท อีกทั้งผู้ทำบัตรยังได้รับเงินชดเชยรายวันอีกวันละ 500 บาท ในกรณีเป็นผู้ป่วย IPD และสามารถใช้ชำระสินค้าบริการออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับคนที่อยากทราบว่าบัตรเดบิตกดเงินสดได้ไหม แน่นอนว่าบัตร LET’S SCB Extra Plus สามารถใช้กดเงินสดจากตู้ไทยพาณิชย์ทุกตู้ในประเทศไทย ในส่วนของวันหมดอายุบัตรเดบิต เราสามารถดูได้ที่หน้าบัตรหรือไม่ก็ข้างหลังบัตร อนึ่ง ผู้สมัครบัตรเดบิตมักจะได้รับข้อความทาง SMS จากธนาคารเมื่อถึงคราวใกล้วันหมดอายุของบัตร
บัตรเดบิตคือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงินรวมถึงการถอนเงินสด ทั้งนี้ ประโยชน์ของบัตรเดบิตไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เนื่องจากบัตรแต่ละใบมีสิทธิพิเศษพ่วงมาด้วย จากการสำรวจประเภทของบัตรในปี 2567 พบว่าบัตรเดบิตให้ประโยชน์หลายประเภทด้วยกัน ทางที่ดีหากเราต้องสมัครบัตรสักใบเอาไว้ใช้งาน เราควรเลือกทำบัตรที่มี option ตรงกับสไตล์เรามากที่สุด เช่น ถ้าใครเป็นสายช้อปปิง ก็แนะนำให้ทำบัตร SCB M VISA เพราะทุกการชำระจะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับคะแนนสะสมเอาไว้แลกเป็นส่วนลดหรือไม่ก็แลกสินค้าที่เข้าร่วมรายการ หรือกรณีถ้าเกรงว่าตนเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุก็อาจจะเลือกบัตร เดบิต LET’S SCB Extra Plus เพราะบัตรดังกล่าวจะช่วยออกค่าใช้จ่ายสูงสุด 5000 บาทต่อครั้ง และกรณีที่ต้องนอนโรงพยาบาลไม่สามารถไปทำงานได้ ธนาคารก็มีเงินชดเชยรายวันให้อีกวันละ 500 บาท เรียกได้ว่าถ้าเลือกบัตรที่ใช่เรา… งานนี้มีแต่ได้กับได้!